ใครที่กำลังจะแต่งบ้าน รีโนเวทบ้าน หรือ คอนโด คงจะพอได้ยินคำว่า “Built-in” กันอยู่บ่อยๆ แต่วันนี้ Jodio Design มีอีกหนึ่งคำที่อยากจะให้ทุกคนรู้จัก นั่นก็คือคำว่า “FIt-in” นั่นเอง
คำว่า “FIt-in” และ “Built-in” เป็นสองคำที่อธิบายถึงวิธีการติดตั้งและการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่ภายในบ้าน ทั้งสองแบบมีความแตกต่างทั้งในด้านลักษณะการใช้งานและวัตถุประสงค์การใช้งาน
Fit-in Furniture
Fit-in Furniture คือ เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถย้ายและจัดวางได้ในพื้นที่ต่างๆ โดยไม่ต้องติดตั้งแบบถาวร มักจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถซื้อมาและจัดวางได้ทันที เช่น โซฟา, ตู้เสื้อผ้าแบบเคลื่อนที่ได้, หรือชั้นวางของที่ไม่ได้ติดกับผนังหรือพื้นอย่างถาวร
ข้อดีของ Fit-in Furniture
ความยืดหยุ่น: สามารถเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนแปลงตำแหน่งได้ตามต้องการ
ความสะดวกในการติดตั้ง: สามารถจัดวางได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการติดตั้งที่ซับซ้อน
ข้อเสียของFit-in Furniture
ไม่เหมาะสมกับพื้นที่จำกัด: อาจไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีขนาดเล็กเนื่องจากไม่สามารถปรับขนาดได้
ความสามารถในการใช้งานจำกัด: อาจไม่สามารถใช้งานได้ดีเท่ากับเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อพื้นที่นั้นๆ
Build-in Furniture
Build-in Furniture คือ เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อใช้งานในพื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะ เช่น ตู้บิ้วอินที่ติดตั้งในห้องนอน, ห้องครัวบิ้วอิน มักจะต้องมีการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญและไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
ข้อดีของ Build-in Furniture
ประหยัดพื้นที่: ออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่โดยเฉพาะ ช่วยให้ใช้พื้นที่ได้เต็มที่
ความสวยงามและเรียบร้อย: สามารถออกแบบให้สอดคล้องกับตกแต่งภายในได้อย่างลงตัว
ข้อเสียของ Build-in Furniture
ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้: หากต้องการเปลี่ยนแปลงต้องทำการรื้อถอน
ต้นทุนสูงกว่า: ต้องการการออกแบบและการติดตั้งที่ซับซ้อน ราคาอาจสูงกว่าเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบไหนขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน, การจัดการพื้นที่, และงบประมาณที่มี บิ้วอินเหมาะสำหรับการใช้งานแบบถาวรและต้องการประหยัดพื้นที่สูงสุด ในขณะที่ฟิตอินเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดวางและการเคลื่อนย้าย
สนใจงานบิ้วอินตกแต่งภายในจากมืออาชีพ ติดต่อ Jodio Design เราพร้อมเปลี่ยนฝันของคุณให้เป็นจริงด้วยสถาปนิกและวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทีมงานผู้รับเหมาคุณภาพ